น่าซื้อ 9 อันดับ แปรงสีฟันไฟฟ้า ที รุ่นไหนดี รีวิวเพียบ อัพเดทล่าสุดปี 2567

เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่อยากซื้อออนไลน์แต่ไม่อยากไปซื้อเองที่ห้าง และที่สำคัญสินค้าบางแบรนด์ที่ขาย ราคาถูกกว่าเมื่อสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ สุดคุ้ม ดีลที่ดีที่สุดมาแล้ว ช้อปเพลินๆ สินค้าลดราคา สูงสุดและคูปองลดมากมาย ดีลสุดพิเศษ
สินค้ามาใหม่ ราคาถูกมาก เราขอแนะนำ แปรงสีฟันไฟฟ้า  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง แปรงสีฟันไฟฟ้า  ไป ราคาถุกจริงๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ลดราคาลงมาอีก ซื้อเลย สินค้าไม่เสียหาย มีคุณภาพ จัดส่งรวดเร็ว ของพรีเมี่ยม ได้ลองแล้วนับว่าดีเลยทีเดียว ไม่มีปัญหา

     
หากคุณกำลังมองหาแปรงสีฟันไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมแปรงสีฟันไฟฟ้าชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ แปรงสีฟันไฟฟ้า ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับ แนะนำ แปรงสีฟันไฟฟ้า ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้

“แปรงสีฟันไฟฟ้า” เป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบันสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพปากและฟันอย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งแปรงสีฟันไฟฟ้าจะช่วยทุ่นแรงและขจัดคราบสกปรก คราบหินปูนได้มากกว่าการแปรงฟันด้วยมือปกติ ในปัจจุบันแปรงสีฟันไฟฟ้าที่มีจำหน่ายทั้งในห้างสรรพสินค้าทั่วไปและในร้านค้าออนไลน์ก็มีแบบให้เลือกหลากหลาย เช่น แบบสั่นสะเทือนและแบบโซนิค ที่ใช้คลื่นความถี่สูงในการกำจัดคราบสิ่งสกปรก ซึ่งราคาแต่ละแบบก็จะแตกต่างกันไปตามวัสดุและระบบการขับเคลื่อน

วันนี้ทีมงานมายเบสท์ได้รวบรวมและคัดสรรแปรงสีฟันไฟฟ้า 10 อันดับที่กำลังมาแรงในปีนี้ให้เพื่อน ๆ ได้เลือกซื้อกัน แต่ก่อนจะไปดูการจัดอันดับแปรงสีฟันไฟฟ้า เราจะอธิบายวิธีการเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าเพื่อให้ผู้อ่านได้นำไปพิจารณาและหาแปรงสีฟันไฟฟ้าที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง จากนั้นเราแนะนำแปรงสีฟันไฟฟ้ายอดฮิตที่สามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ และปิดท้ายด้วยข้อควรระวังในการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า ใครพร้อมแล้วตามไปดูกันเลย

ข้อดีที่ถือว่ามีส่วนสำคัญที่สุดในการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า คือ การที่ผู้ใช้สามารถแปรงฟันได้อย่างเบามือโดยที่ไม่ต้องขยับมืออย่างพิถีพิถันมากนัก สิ่งที่น่าสนใจของแปรงสีฟันไฟฟ้าก็คือ ปลายแปรงสีฟันไฟฟ้าสามารถซอกซอนไปได้ลึกถึงจุดที่คราบสกปรกหรือสิ่งหมักหมมที่ติดตามฟันอยู่อย่างง่ายดาย ในขณะที่แปรงสีฟันธรรมดาแปรงได้ไม่ทั่วถึง ดังนั้นแปรงสีฟันไฟฟ้าจึงเป็นที่นิยมมากสำหรับเด็กที่ยังไม่สามารถแปรงฟันได้อย่างสะอาด


หากเป็นแปรงสีฟันไฟฟ้าที่สามารถเปลี่ยนหัวแปรงได้ เพื่อน ๆ ก็สามารถแบ่งกันใช้ได้กับคนในครอบครัว เนื่องจากที่ปลายด้ามของหัวแปรงจะมีสีแตกต่างกัน ดังนั้นจึงสามารถแยกออกได้อย่างสบายใจเลยว่าหัวแปรงอันไหนเป็นของใคร

แปรงสีฟันไฟฟ้าหลายยี่ห้อมีฟังก์ชันที่คล้ายคลึงกัน หลายคนจึงอาจจะสงสัยว่าแล้วแบบนี้จะเน้นที่จุดไหนดีหรือควรเลือกแบบไหนดีใช่ไหมล่ะครับ ? ต่อจากนี้เราจะอธิบายวิธีการเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าในรายละเอียดด้านล่าง ตามไปดูกันเลย

แปรงสีฟันไฟฟ้าแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. แปรงแบบสั่น
2. แปรงโซนิค

3. แปรงอัลตร้าโซนิค


ใครพร้อมแล้วมาเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าที่เหมาะกับคุณจากคุณสมบัติและราคากันได้เลยครับ

สำหรับผู้ที่อยากแปรงฟันให้แต่ละอาดทุกซี่นั้น ขอแนะนำประเภทแปรงแบบสั่นเลยครับ หัวแปรงแบบสั่นที่จะเคลื่อนที่ไปทีละนิด ๆ ให้ความรู้สึกที่คล้ายกับแปรงสีฟันแบบปกติ ตอนใช้ก็อาจจะรู้สึกว่าเหมือนใช้แปรงสีฟันธรรมดา แต่ความพิเศษคือ ให้ความนุ่มนวล สมูธกว่าการแปรงแบบปกติ เนื่องจากเสียงการสั่นสะเทือนเบาจึงสามารถนำไปใช้ในสถานที่ที่มีคนจำนวนมากได้อย่างออฟฟิศ หรือโรงเรียน


ประเภทหัวแปรงแบบหมุนจะมีราคาที่แพงกว่าหัวแปรงแบบสั่นแต่ก็จะมีความสามารถในการกำจัดคราบจุลินทรีย์ที่สูงกว่าด้วย โดยปกติแปรงประเภทนี้จะแปรงไปถึงด้านหลังของฟันที่สามารถแปรงได้ยาก ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าสามารถแปรงฟันแต่ละซี่ได้อย่างสะอาด หมดจดแน่นอน แต่ในทางกลับกัน แปรงแบบหมุนจะกระตุ้นเหงือกรุนแรงกว่าแปรงแบบสั่น ดังนั้นเวลาที่แปรงจึงต้องระมัดระวังไม่ให้แปรงรุนแรงจนเกินไป

ผู้ที่อยากแปรงฟันให้ละเอียดระหว่างซอกฟันหรือจุดที่มีการสะสมของคราบพลัค แปรงสีฟันไฟฟ้าแบบโซนิคถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว แปรงมีแรงสั่นสะเทือนด้วยความเร็วสูง 20,000 ถึง 40,000 ครั้งต่อนาที ซึ่งกลไกนี้จะทำความสะอาดปากของเราเหมือนเครื่องล้างจานที่มีฟองละเอียดและมีน้ำเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกเลยล่ะครับ


นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นคือ สามารถกำจัดสิ่งหมักหมมที่ติดตามซอกฟันได้แม้ว่าตัวแปรงจะไม่ได้สัมผัส แปรงประเภทนี้สามารถทำความสะอาดได้ถึงปลายแปรง 2 มม. ดังนั้นผู้ที่กังวลว่าแปรงจะไปไม่ถึงช่องว่างระหว่างฟันหรือยังแปรงไม่ทั่วถึงก็สบายใจได้เลย อย่างไรก็ตาม แปรงประเภทนี้มีการสั่นสะเทือนที่รุนแรง บางคนอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้ชิน หากในกรณีที่จะให้เด็ก ๆ ใช้ ก็ควรอยู่ในการดูแลของผู้ใหญ่ครับ

แปรงอัลตร้าโซนิคที่ทำงานด้วยคลื่นอัลตร้าโซนิคประมาณ 1.6MHz (1.6 ล้านครั้ง/วินาที) ไม่เพียงแต่กำจัดคราบจุลินทรีย์เท่านั้น แต่ยังช่วยลดการยึดเกาะของคราบจุลินทรีย์และทำให้ง่ายต่อการกำจัดสิ่งที่หมักหมมที่ติดตามฟัน รวมถึงทำลายความรู้สึกเหนียวปากด้วย สำหรับใครที่ต้องการป้องกันโรคปริทันต์ ขอแนะนำแปรงประเภทนี้เลย


แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตัวแปรงแทบจะไม่มีการสั่นสะเทือน ผู้ใช้จึงจำเป็นต้องเคลื่อนไหวแปรงด้วยตัวเองเหมือนการใช้แปรงสีฟันปกติ ซึ่งอาจจะไม่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการทุ่นแรงในการแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันปกติ นอกจากนี้ตัวเครื่องก็มีราคาแพงกว่าแปรงแบบสั่นและแปรงแบบโซนิคทำให้ผู้ผลิตไม่ค่อยผลิตแปรงประเภทนี้ ตัวเลือกของแปรงก็เลยน้อยลงไปด้วย หากใครไม่เจอแปรงที่ถูกใจ ก็ลองพิจารณาแปรงสีฟันไฟฟ้าประเภทอื่นดูนะครับ

สำหรับผู้ที่ใช้งานที่บ้านเป็นหลัก ขอแนะนำให้เลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบชาร์จไฟได้ เพียงแค่วางบนขาตั้งก็สามารถชาร์จได้ง่าย ๆ แล้ว ดังนั้นจึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด ข้อดีของประเภทนี้ก็คือ เนื่องจากไม่ต้องใช้ถ่านจึงสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้ แต่เนื่องจากในตัวเครื่องมีแบตเตอรี่ฝังอยู่ ทำให้ขนาดและน้ำหนักของแปรงประเภทนี้ก็จะมากกว่าแบบใช้ถ่าน


แต่ถ้าต้องการพกไปใช้ในการท่องเที่ยวหรือเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด ต่างประเทศ แบบใช้ถ่านก็น่าจะดีกว่า เพราะเพียงแค่ใส่ถ่านเข้าไป ไม่ว่าที่ไหนก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก แถมยังไม่ต้องพกที่ชาร์จไปให้ยุ่งยากด้วย แต่ก็มีข้อเสียคือ แปรงอาจจะสั่นเบากว่าแปรงแบบชาร์จไฟ หากใครไม่กังวลเรื่องนี้ก็สามารถใช้ได้ครับ


หรือหากใครต้องการใช้แปรงไฟฟ้าแบบชาร์จไฟได้สำหรับการเดินทางไปทำงานเพื่อธุรกิจหรือการท่องเที่ยว ให้มองหาแปรงไฟฟ้าที่ชาร์จ 1 ครั้งแต่สามารถใช้งานได้มากกว่า 1 สัปดาห์ หากตรวจสอบเวลาที่ใช้ในการชาร์จแต่ละครั้งของแปรงแต่ละอันให้ดี ก็จะทำให้คุณเจอแปรงที่พกพาไปใช้งานได้ง่ายระหว่างออกทริป

แปรงสีฟันไฟฟ้านั้น หากผู้ใช้ไม่ได้ใช้งานอย่างถูกวิธีก็อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ขนาดของแปรงที่ใช้ เช่น ในขณะที่จับแปรงรู้สึกว่าใช้งานได้ง่ายหรือไม่ สำหรับผู้หญิงขอแนะนำให้เลือกด้ามจับที่บาง และสำหรับผู้ชาย ขอแนะนำให้เลือกด้ามจับที่หนาขึ้นมาหน่อยครับ


อีกจุดสำคัญก็คือ ขนาดของหัวแปรง แต่ละคนก็มีขนาดปากที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นหากใช้หัวแปรงมีขนาดใหญ่เกินไปก็จะยากที่จะแปรงในจุดที่เล็ก ๆ อย่างหลังฟันหรือเขี้ยวได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้หากแปรงไม่ถูกต้อง อาจจะทำให้ฟันและเหงือกอักเสบได้ ดังนั้นเพื่อความชัวร์ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าควรลองใช้จากแปรงที่มีหัวเล็กดูก่อน

หากคุณไม่เพียงแค่ต้องการกำจัดคราบจุลินทรีย์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องการแก้ไขปัญหาหลาย ๆ อย่างในช่องปาก ลองมองหาแปรงสีฟันไฟฟ้าที่สามารถเปลี่ยนหัวแปรงได้ดู จริงอยู่ที่หากมีหัวแปรงมาตรฐานที่มาพร้อมกับตัวเครื่องก็สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ปกติ แต่หากคุณมีหัวแปรงที่หลากหลาย ก็จะสามารถใช้หัวแปรงแต่ละแบบเพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลายได้มากขึ้น


ตัวอย่างเช่น หัวแปรงสำหรับการฟอกสีฟัน การดูแลเหงือก การป้องกันกลิ่นปาก การดูแลรักษาโรคปริทันต์ และอื่น ๆ ซึ่งหัวแปรงแต่ละแบบก็จะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนซื้อหัวแปรงควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่าแบบไหนใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร

หลายคนอาจจะรู้อยู่แล้วว่าตัวเครื่องของแปรงไฟฟ้านั้นมีราคาสูง แต่ก็อย่าลืมว่ายังมีค่าหัวแปรงที่ต้องใช้เปลี่ยนด้วย แปรงสีฟันไฟฟ้าก็เหมือนกับแปรงสีฟันธรรมดา ที่หากหัวแปรงเริ่มบานหรือพอใช้งานไป 2 - 3 เดือนก็จำเป็นต้องเปลี่ยนหัวแปรงใหม่เพื่อสุขอนามัยที่ดี


หัวแปรงสำหรับเปลี่ยนมีตั้งแต่ราคาถูกไม่กี่สิบบาทไปจนถึงหลักพันเลยก็มี ราคาของหัวแปรงก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัท ดังนั้นให้ลองพิจารณาดูว่าหากต้องเปลี่ยนหัวแปรงทุก 3 เดือน ช่วงราคาประมาณไหนที่เรารับไหว หากครอบครัวไหนใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าร่วมกันก็ต้องมีหัวแปรงเพื่อเปลี่ยนสำหรับแต่ละคนด้วย ใครที่อยากลองคำนวณค่าใช้จ่ายรายปีสามารถลองคำนวณโดย "ค่าใช้จ่ายต่อปี x จำนวนคน"

ผู้ที่รู้สึกว่ายังไม่ชินกับการแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันไฟฟ้าจนทำให้กังวลใจว่าจะแปรงฟันได้ไม่ทั่วถึง ลองเลือกใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าที่สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนได้ดูนะครับ หากสามารถเชื่อมต่อแปรงสีฟันไฟฟ้ากับแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนได้ ผู้ใช้ก็จะสามารถตรวจดูได้ว่าเราแปรงครบทุกจุดแล้วหรือยัง เรื่องกังวลใจว่าจะแปรงฟันไม่ทั่วก็หายไปแน่นอน


นอกจากนี้ยังมีบางบริษัทที่ผลิตแปรงสีฟันไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันตรวจสอบและแจ้งเตือนหากใช้แรงในการแปรงมากเกินไป ดังนั้นหากใครใช้แปรงที่มีฟังก์ชันนี้ก็สามารถแปรงฟันได้อย่างถูกวิธีแน่นอนครับ

หากคุณเป็นมือใหม่ที่อยากลองใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B Pro2 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก เพราะความพิเศษของรุ่นนี้ คือ มีระบบ Pressure Sensor หรือมีไฟเตือนเมื่อเรากดแรงเกินไป และยังมาพร้อมกับหัวแปรงขนนุ่ม ที่อ่อนโยนต่อเหงือกและฟัน เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใช้เป็นครั้งแรก โดยรุ่นนี้มีโหมดการทำงาน 2 แบบ คือ Daily Clean ที่เหมาะสำหรับการแปรงฟันทั่วไป และโหมด Sensitive Clean สำหรับผู้ที่เสียวฟันง่าย


นอกจากนี้รุ่น Pro2 ยังมีเทคโนโลยี 3 มิติ โดยที่หัวแปรงจะหมุน สั่น และยังเคลื่อนที่ขึ้นลง ซึ่งหัวแปรงถูกออกแบบมาเพื่อให้ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึงแม้ในจุดที่เข้าถึงยาก เช่น บริเวณฟันกรามซี่ในสุด หรือด้านหลังฟัน ช่วยลดคราบพลัคอันเป็นสาเหตุของการเกิดหินปูนและโรคทางช่องปากต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับใครที่รู้สึกว่าการทำความสะอาดด้วยแปรงสีฟันอย่างเดียวทำความสะอาดได้ไม่เพียงพอ เพราะด้วยหัวแปรงมีขนาดใหญ่เกินไป ทำให้ไม่สามารถซอกซอนทำความสะอาดส่วนลึกบริเวณซอกฟันได้  หรือคนที่มีปัญหาของโรคเหงือก ทีมงานขอแนะนำให้คุณใช้ "แปรงซอกฟัน" เป็นตัวช่วยเสริมทำความสะอาดหลังแปรงฟันร่วมด้วย จะช่วยให้คุณสามารถทำความสะอาดฟันได้ทุกซอกทุกมุมอย่างทั่วถึง, ลดปัญหาเหงือกอักเสบ ส่งผลให้คุณมีสุขภาพเหงือกและฟันที่ดีอย่างยาวนานยิ่งขึ้นค่ะ

มาถึงหัวข้อที่ทุกคนรอคอยกันแล้ว เราจะแนะนำแปรงสีฟันไฟฟ้าโดยการจัดอันดับความนิยมซึ่งอ้างอิงจากรีวิวของผู้ใช้งานจริง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ควรดูตามอันดับเพียงอย่างเดียว ควรเลือกที่เข้ากับการใช้งานของตนเองด้วย หากเป็นไปได้ก็ควรไปดูสินค้าจริงที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อจะได้ลองตัวแปรงจับว่าถนัดหรือไม่ เพราะถ้าซื้อมาแล้วจับไม่ถนัดมือก็อาจจะต้องวางทิ้งไว้อย่างน่าเสียดาย ใครพร้อมแล้วมาดู 10 อันดับ แปรงสีฟันไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถซื้อออนไลน์ได้ กันเลย

หากต้องการลองใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า แต่งบค่อนข้างจำกัด เราแนะนำรุ่นนี้เลยครับ มีคุณสมบัติเยอะมาก เริ่มจากมีโหมดการทำความสะอาดถึง 5 โหมดด้วยกัน ได้แก่ โหมดทำความสะอาด, โหมดขัด, โหมดฟันขาว, โหมดถนอมฟัน, โหมดซอฟท์และยังกันน้ำได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบจับเวลาแปรงฟัน 2 นาทีตามที่ทันตแพทย์แนะนำ และโหมดเตือนให้เปลี่ยนไปแปรงตรงจุดอื่นทุก 30 วินาที การจ่ายไฟเป็นแบบชาร์จไฟได้ สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 15 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเลยทีเดียว ถูกและดีจริง ๆ ครับ

รุ่นนี้มีขนแปรงเรียวบาง สามารถซอกซอนลงไปในซอกฟันถึงจุดที่เข้าถึงยาก หัวแปรงเป็นแบบหัวแปรงสั่น หากใครชอบแบบหัวแปรงหมุนคงต้องมองหารุ่นอื่นครับ รุ่นนี้สามารถเปลี่ยนหัวแปรงได้ แต่การจ่ายไฟเป็นแบบใช้ถ่าน 2 ก้อน เวลาที่เปลี่ยนถ่านก็ควรเปลี่ยนพร้อมกันทั้ง 2 ก้อน เนื่องจากแรงสั่นในการแปรงขึ้นอยู่กับพลังงานของถ่าน หากถ่านใกล้หมดหรือมีพลังงานไม่เท่ากันก็อาจจะทำให้แรงสั่นไม่เสถียรและไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร ใครที่ถ้าอยากเน้นเรื่องความเสถียรในการแปรง เราแนะนำให้เลือกรุ่นชาร์จไฟจะดีกว่าครับ

หากใครชอบของถูกและดี แนะนำรุ่นนี้เลยครับ ถูกออกแบบมาให้น้ำหนักเบา มีขนาดกะทัดรัด เหมาะแก่การพกพาไปใช้นอกสถานที่ สามารถทำงานได้ 3 โหมด ได้แก่ โหมดฟันขาว, โหมดทำความสะอาดลิ้น และโหมดนวดเหงือก ความถี่ในการสั่นของหัวแปรงคือ 36,000 ครั้งต่อนาที สามารถกำจัดคราบหินปูนได้ อีกทั้งยังมีระบบแจ้งเตือนให้เปลี่ยนไปแปรงส่วนอื่นทุก 30 วินาที หัวแปรงสามารถเปลี่ยนได้ แต่รุ่นนี้เป็นแบบใช้ถ่าน แรงสั่นสะเทือนในการแปรงฟันอาจจะลดลงขึ้นอยู่กับระดับพลังงานของถ่านที่ใช้ ใครที่ไม่กังวลเรื่องนี้ก็รีบสอยเลยครับ

รุ่นนี้ฮอตฮิตมากแม้จะมีราคาค่อนข้างสูงแต่ประสิทธิภาพก็สูงตามด้วยครับ หัวแปรงของรุ่นสามารถถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งหัวแปรงเป็นแบบเอียงที่สามารถซอกซอนขจัดสิ่งสกปรกตามซอกฟันได้มากกว่าหัวแปรงแบบธรรมดา หัวแปรงเป็นแบบ 3 มิติ เคลื่อนที่ได้ถึง 3 แบบ คือ แกว่งกวัด หมุนวน และ สั่นเป็นจังหวะ ทำให้ได้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดที่ดีกว่าหัวแปรงธรรมดา นอกจากนี้ยังมีระบบไฟเตือนเมื่อแปรงฟันครบ 2 นาที และระบบไฟเตือนเมื่อชาร์จแบตเต็ม สามารถใช้งานได้ 7-10 วันต่อการชาร์จแบตหนึ่งครั้ง เนื่องจากไม่มีโหมดลดความเร็วของแรงสั่นสะเทือน จึงไม่ค่อยแนะนำสำหรับมือใหม่เท่าไหร่ เพราะอาจจะเสียวฟันจนกลัวการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าไปเลยก็เป็นได้

แปรงสีฟันจากแบรนด์นี้ขึ้นชื่อเรื่องขนแปรงนุ่มพิเศษ ผู้เขียนแนะนำสำหรับมือใหม่หัดใช้ที่ยังไม่คุ้นชินกับการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า ตัวแปรงถูกออกแบบมาให้มีการสั่นที่พอเหมาะ 6000 ครั้งต่อนาที ขนแปรงผลิตจาก วัสดุ PBT มีความยืดหยุ่นสูงและทนทาน ใช้งานได้นานกว่าขนแปรงไนลอนทั่วไป มีหัวแปรงให้ซื้อเปลี่ยนได้ ซึ่งควรเปลี่ยนทุก 3 เดือนเพื่อสุขอนามัยที่ดี จากรีวิวของผู้ใช้งานจริงค่อนข้างพอใจในความนุ่มของหัวแปรง แม้จะเป็นระบบสั่นไม่ได้เป็นแบบหมุน แต่ก็รู้สึกสะอาดกว่าการใช้แปรงสีฟันธรรมดา รุ่นนี้จะแตกต่างจากรุ่นอื่นตรงที่ใช้ถ่าน ซึ่งแรงสั่นก็อาจจะลดลงตามพลังงานที่เหลือของถ่าน

อีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยม เนื่องจากราคาไม่ถึง 300 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบจำกัดหรือเพิ่งเริ่มหัดใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า แปรงสีฟันรุ่นนี้เป็นระบบอัลตร้าโซนิคที่เน้นในเรื่องปล่อยความถี่เสียงในการขจัดแบคทีเรีย และคราบหินปูนให้หลุดออก จากรีวิวผู้ใช้งานจริงพบว่าพอใจทั้งด้านราคาและการใช้งาน ขนแปรงนุ่ม แปรงฟันได้สะอาดขึ้น เสียงเงียบในขณะใช้งาน ตัวแปรงมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก อีกทั้งยังมีกล่องพลาสติกครอบหัวแปรงป้องกันเชื้อโรค สำหรับผู้ใช้งานครั้งแรกอาจจะเสียวฟัน แต่หากใช้ไปสักหนึ่งสัปดาห์ก็อาจจะคุ้นชินมากขึ้น

อีกหนึ่งรุ่นที่คนนิยมกันมาก ด้วยคุณภาพจาก Philips มาตรฐานประเทศญี่ปุ่น ด้วยความถี่ของการสั่นที่มากถึง 62,000 ครั้งต่อนาที ซึ่งถือว่าความถี่สูงกว่ารุ่นอื่นมาก แต่เนื่องจากรุ่นนี้มีโหมดหัดใช้สำหรับมือใหม่ในการแปรง 14 ครั้งแรก จึงขอแนะนำรุ่นนี้สำหรับผู้ที่เริ่มหัดใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า โหมดหัดใช้จะช่วยให้มือใหม่ปรับตัวจากการใช้แปรงสีฟันปกติมาใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า ซึ่งจะค่อย ๆ ทำให้คุณรู้สึกคุ้นชินและลดอาการเสียวฟัน อีกทั้งยังมีระบบตั้งเวลาเตือนเป็นระยะ ๆ เพื่อให้ย้ายไปแปรงในส่วนถัดไป มีระบบตัดเวลาแปรงฟันเมื่อครบสองนาที สะดวกต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก แบตเตอรี่เป็นแบบชาร์จไฟ สามารถใช้ได้ 10 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีราคาไม่แพง อีกทั้งความถี่ของแรงสั่นยังมากถึง 30,000 ครั้งต่อนาที ทำให้ฟันของคุณสะอาดหมดจด ช่วยขจัดคราบหินปูน และแบคทีเรีย หมดปัญหากลิ่นปาก คุยกับคนรอบข้างได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ยังออกแบบให้ปรับโหมดทำงานได้ถึง 3 โหมด ได้แก่ ทำความสะอาดลิ้น, ซอฟท์โหมด และนวด เหงือก อีกทั้งในขณะใช้งานยังมีเสียงที่เงียบมากเพียง 50 เดซิเบล สามารถพกพาไปใช้ที่โรงเรียนหรือที่ทำงานได้โดยไม่รบกวนคนรอบข้าง ข้อควรระวังคือ เนื่องจากมีแรงสั่นมากจึงอาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่หัดใช้ ใครที่เพิ่งลองใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า ลองมองหารุ่นอื่นที่สั่นเบากว่านี้ดูก่อนนะครับ

แปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่ฮอตฮิตตลอดกาลจาก Oral-B หัวแปรงสั่นด้วยความเร็วแบบ Oscillation 7600 ครั้งต่อนาที ถึงรุ่นนี้จะมีเพียงหนึ่งโหมดแต่ก็สามารถขจัดคราบสกปรกออกจากฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเนื่องจากการสั่นไม่แรงมาก มือใหม่ก็สามารถใช้ได้แบบไม่ต้องกังวล ตัวแปรงถูกออกแบบมาให้เป็นแบบชาร์จไฟ แต่ไม่มีระบบไฟบอกระดับการชาร์จแบต ใช้งานได้นานราว ๆ หนึ่งอาทิตย์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำให้สามารถพกไปใช้เวลาท่องเที่ยวหรือทำงานต่างจังหวัด ต่างประเทศได้เลย อย่างไรก็ตามหากคุณชอบขนแปรงชนิดนุ่มพิเศษแล้วละก็รุ่นนี้อาจจะไม่เหมาะ เนื่องจากมีขนแปรงนิ่มระดับปานกลาง

แปรงสีฟันรุ่นนี้กำลังมาแรงในปีนี้เลยครับ Xiaomi ได้ขยันออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เน้นดีไซน์สวยและการใช้งานที่หลากหลาย แปรงรุ่นนี้มีหัวแปรงที่มีประสิทธิภาพสูง ออกแบบแปรงไฟฟ้ารุ่นมาให้กันน้ำได้มากถึง 1 เมตร หัวแปรงเป็นแบบโซนิคปล่อยคลื่นเสียงในการกำจัดคราบหินปูน การสั่นค่อนข้างแรง มือใหม่อาจต้องเริ่มจากโหมดซอฟท์ก่อน มีระบบเตือนทุก 30 วิเพื่อเปลี่ยนจุดแปรงและหยุดอัตโนมัติเมื่อครบ 2 นาที นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโหมดเลยทีเดียว ที่สำคัญสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนเพื่อเช็คประสิทธิภาพในการแปรงได้ด้วย แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานเกือบเดือน ใครที่มองหาแปรงไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติครบถ้วนต้องมีรุ่นนี้ไว้ในครอบครองแล้วล่ะครับ

แปรงสีฟันไฟฟ้านั้นมีการสัมผัสกับฟันมากกว่าการแปรงด้วยมือ ดังนั้นจึงควรระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจจะทำให้ฟันสึกหรือเหงือกอักเสบได้ สามารถป้องกันได้โดยหลีกเลี่ยงการแปรงในจุดเดิมนานเกินไป

สำหรับการเลือกยาสีฟันควรเลือกชนิดที่ไม่มีสารกัดกร่อน หรือจะลองแปรงโดยไม่ใช้ยาสีฟันในช่วงแรก และควรเลือกรุ่นที่มีระบบเตือนทุก ๆ 30 วินาทีเพื่อเปลี่ยนไปแปรงในส่วนอื่น ๆ และหยุดแปรงเมื่อครบ 2 นาทีตามที่ทันตแพทย์แนะนำ และเลือกรุ่นที่สามารถปรับโหมดแปรงฟันได้ เช่น โหมดสำหรับมือใหม่ หรือโหมดลดระดับการสั่นสะเทือน

หากมีส่วนที่แปรงเข้าไปทำความสะอาดไม่ถึง หลังจากใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า คุณสามารถใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันเพื่อกำจัดคราบสกปรกที่หลงเหลืออยู่ ผู้อ่านสามารถหาซื้อตามบทความแนะนำด้านล่างได้เลยครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ? สำหรับแปรงสีฟันไฟฟ้า ที่จะทำให้การแปรงฟันของคุณสะดวกและง่ายขึ้น จากรีวิวส่วนใหญ่ของผู้ที่เปลี่ยนจากแปรงธรรมดามาใช้แปรงฟันไฟฟ้าก็ชื่นชอบแปรงสีฟันไฟฟ้าเนื่องจากหลังจากใช้แล้วสุขภาพปากและฟันดีขึ้น ผู้เขียนเองก็เช่นกัน จากที่ไปพบทันตแพทย์ทีไรก็โดนเตือนเรื่องหินปูนเกาะทุกครั้ง แต่พอได้ค้นพบแปรงสีฟันไฟฟ้า เหมือนได้เจอทางสว่าง ปัญหาหินปูนเกาะหมดไปในทันที

อีกทั้งยังทำให้มั่นใจได้ในทุกวันว่าเราไม่มีกลิ่นปากโชยไปรบกวนเพื่อนรอบข้างอย่างแน่นอน ใครที่ยังไม่เคยใช้ เริ่มอยากจะใช้ขึ้นบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะช่วยเพื่อน ๆ เลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานของเพื่อน ๆ ได้นะครับ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าครับ